เทียบสเปก iPhone 11 และ iPhone 12 ปลายปีนี้ 2022 ซื้อรุ่นไหนถึงจะคุ้ม? ในราคาที่ไม่ต่างกันมากนัก


iPhone 11 vs iPhone 12 ปลายปี ซื้อรุ่นไหนดี? หลังจาก Apple เปิดตัว iPhone 14 series ราคาของ iPhone รุ่นก่อนหน้าก็ลดลง ตอนนี้ราคาของ iPhone 11 และ iPhone 12 ถูกลงกว่าเดิมมาก วันนี้เราจะมาลองเปรียบเทียบสเปก ซื้อ iPhone 11 หรือ iPhone 12 รุ่นไหนดี ซึ่งตอนนี้ iPhone 11 ราคามือหนึ่งต่ำกว่า 20,000 บาท อะไหล่มือสอง 10,000 – 13,000 บาท ส่วน iPhone 12 ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 24,900 บาท มือสองราคา 15,000 – 18,000 บาท โดยราคาไม่แรงในยุคที่ค่าใช้จ่ายสูง การใช้เงินอย่างชาญฉลาดจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ส่วนความแตกต่างของสเปคนั้นเราจะมาพูดถึงกันทีละจุด
- ขนาด น้ำหนัก และวัสดุ
- หน้าจอ
- ชิปประมวลผล
- กล่องถ่ายรูป
- แบตเตอรี่
- สรุป
Contents
ขนาด น้ำหนัก และวัสดุ
ไอโฟน 12: | ไอโฟน 11: | |
---|---|---|
ขนาด | 146.7 x 71.5 x 7.4 มม. | 150.9 x 75.7 x 8.3 มม. |
น้ำหนัก | 162 กรัม | 194 กรัม |
วัสดุ | กระบังหน้าเซรามิก อลูมิเนียมเกรดการบินและอวกาศ |
กระจกหน้าหลัง อลูมิเนียมเกรดการบินและอวกาศ |
ในแง่ของขนาดและน้ำหนัก iPhone 12 ทำงานได้ดีขึ้นเมื่อไม่มีหน้าจอไร้ขอบ เป็นผลให้อุปกรณ์มีขนาดเล็กลงเล็กน้อย ทำให้ตัวเครื่องบางและเบากว่า iPhone 11 รุ่นเริ่มต้น วัสดุที่ใช้ทั้งคู่ใช้เฟรมอะลูมิเนียมเกรดเดียวกันกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมการบินและอวกาศ ทำให้แข็งแรงทนทานฝาหลังยังเป็นกระจก อย่างไรก็ตาม การเคลือบเซรามิกอีกชั้นหนึ่งจะปรากฏบนหน้าจอกระจกของ iPhone 12 ซึ่งจะทำให้หน้าจอมีความแข็งแรงมากขึ้นเล็กน้อย (แต่ถ้าถ่ายก็ไม่ต่างกันครับ)
หน้าจอ
ไอโฟน 12: | ไอโฟน 11: | |
---|---|---|
แผงเครื่องมือ | ซูเปอร์เรตินา XDR (OLED) | ลิควิดเรติน่า HD (IPS) |
ขนาด | 6.1 นิ้ว | 6.1 นิ้ว |
ความละเอียด | 2532 x 1170 พิกเซล | 1792 x 828 พิกเซล |
ความหนาแน่น | 460 ppi | 326 ppi |
อัตราส่วนความคมชัด | 2,000,000:1 | 1400:1 |
เอชดีอาร์: | สนับสนุน | – |
ความสว่างสูงสุด | 625 นิต | 625 นิต |
ความสว่างสูงสุดในท้องถิ่น (HDR) | 1200 นิต | – |
สำหรับการแสดงผล เมื่อคำนึงถึงข้อกำหนด iPhone 12 มีหน้าจอ OLED ที่ให้สีและความละเอียดที่ดีกว่าจอแสดงผล IPS ของ iPhone 11 และยังรองรับการแสดงผลหลายจอด้วย HDR ในระยะยาว หน้าจอ OLED มักจะได้รับผลกระทบมากกว่าหน้าจอ IPS ที่มีการสร้างสีที่ดีกว่า รวมถึงมีความสว่างมากขึ้น ซึ่งทำให้หลอดไฟเสื่อมสภาพเร็วขึ้นและทำให้แบตเตอรี่หมดไวขึ้น นี่เป็นการประนีประนอมระหว่างภาพที่มีสีสัน หน้าจอสว่าง แต่เสื่อมสภาพเร็วและทำให้แบตเตอรี่หมด ด้วยหน้าจอสีหม่นๆ เล็กน้อย ทำให้แสงไม่จ้ามาก แต่กินไฟน้อยและใช้งานได้นาน
ชิปประมวลผล
ไอโฟน 12: | ไอโฟน 11: | |
---|---|---|
ชิปประมวลผล | A14 ไบโอนิค | A13 ไบโอนิค |
ซีพียู: | ประสิทธิภาพแบบดูอัลคอร์ @3.1 GHz ประหยัดพลังงาน 4 คอร์ @1.8GHz |
ประสิทธิภาพแบบดูอัลคอร์ @ 2.65 GHz ประหยัดพลังงาน 4 คอร์ @1.8GHz |
จีพียู: | 4 แกน | 4 แกน |
มอเตอร์ประสาท | 16 เมล็ด | 8 เมล็ด |
แกะ | 4 กิกะไบต์ | 4 กิกะไบต์ |
พลัง | 64GB / 128GB / 256GB | 64GB / 128GB / 256GB |
ในแง่ของโปรเซสเซอร์ A14 Bionic จะแข็งแกร่งกว่า A13 Bionic อย่างแน่นอน เนื่องจากเทคโนโลยีที่ใหม่กว่า ความเร็วที่สูงขึ้น อีกทั้งยังมี Neural Engine ที่มากขึ้น และ A14 Bionic ยังรองรับการเชื่อมต่อ 5G อีกด้วย เมื่อพูดถึงสเปกโดยรวม A14 Bionic ของ iPhone 12 นั้นดีกว่า A13 Bionic ของ iPhone 11 อย่างแน่นอน แต่นั่นคือสิ่งที่ iPhone พูดถึงจริงๆ 5G 12 ยังมีปัญหาอยู่บ้าง การใช้พลังงานที่สูงมาก ใช้เวลาจริงๆ หลายคนจะเปลี่ยนไปใช้ 4G แทน ส่งผลให้ความแตกต่างของแบนด์วิธน้อยกว่าเมื่อเทียบกับ A13 Bionic ของ iPhone 11
อีกสิ่งหนึ่งที่ค่อนข้างแตกต่างคือการจัดเก็บ ประการแรก iPhone 12 จะวางจำหน่ายทั้งหมด แต่ iPhone 11 จะไม่จำหน่ายที่มีความจุ 256GB iPhone 12 กับเว็บไซต์ของ Apple ซึ่งมีให้เลือกเต็มไปหมด) ในขณะที่รุ่นที่ใช้แล้วจะมีความสามารถทั้งหมด
กล่องถ่ายรูป
ไอโฟน 12: | ไอโฟน 11: | |
---|---|---|
กล้องหลัง | กว้าง: 12 MP, f/1.6, OIS อัลตร้าไวด์: 12 MP, f/2.4 |
กว้าง: 12 MP, f/1.8, OIS อัลตร้าไวด์: 12 MP, f/2.4 |
กล้องด้านหน้า | TrueDepth: 12MP, f/2.2.2 | TrueDepth: 12MP, f/2.2.2 |
บันทึกวิดีโอ | บันทึกวิดีโอ 4K ที่ 24fps, 25fps, 30fps หรือ 60fps บันทึกวิดีโอ HDR ด้วย Dolby Vision สูงสุด 4K 30fps |
บันทึกวิดีโอ 4K ที่ 24fps, 25fps, 30fps หรือ 60fps |
ฟิวชั่นลึก | กล้องด้านหน้า กล้องหลัง |
กล้องหลัง |
โหมดกลางคืน | กล้องด้านหน้า กล้องหลัง รองรับไทม์แลปส์ |
กล้องหลัง |
สำหรับกล้อง ทั้ง iPhone 12 และ iPhone 11 ใช้เซ็นเซอร์ 12MP เดียวกันในทุกเลนส์ แต่ iPhone 12 นั้นยอดเยี่ยมในการถ่ายภาพในที่แสงน้อยด้วยรูรับแสงที่กว้างขึ้น รวมถึงการที่กล้องหน้าโหลดตอนกลางคืน ช่วยให้ถ่ายเซลฟี่ตอนกลางคืนได้ดีขึ้น นอกจากนี้ในแง่ของการบันทึกวิดีโอ iPhone 12 ยังรองรับการบันทึก HDR แต่เมื่อใช้งานในชีวิตประจำวัน การบันทึกวิดีโอ HDR นั้นเกินความจำเป็นเล็กน้อย ถ้าเน้นถ่ายรูปจริงๆ iPhone 11 ก็เพียงพอต่อการใช้งาน อย่างไรก็ตาม หากคุณมักจะถ่ายภาพในที่แสงน้อย iPhone 12 ก็น่าสนใจกว่าเล็กน้อย
แบตเตอรี่
ไอโฟน 12: | ไอโฟน 11: | |
---|---|---|
ขนาด | 2815 มิลลิแอมป์ | 3110 มิลลิแอมป์ |
ระบบชาร์จไฟ | PD2.0: แม็กซ์เซฟ 15W ชี่ 7.5W |
PD2.0: ชี่ 7.5W |
ในเรื่องของแบตเตอรี่นั้นถ้าเทียบกันก็ไม่เป็นไรเพราะยังมีปัจจัยอื่นในเรื่องของระยะเวลาการใช้งานโดยรวม รวมอยู่ในความร้อนที่เกิดจากพารามิเตอร์ต่างๆ ชิปประมวลผล หรือแม้แต่การใช้งาน ดังนั้นความหนักหนาสาหัสเทียบกันไม่ได้ แต่ดูแล้วลองเล่นเยอะตามความรู้สึก ถ้า iPhone 12 ต่อ 4G อย่างเดียว แบตน่าจะอยู่ได้นานกว่า iPhone 11 นิดนึง (โดยการตั้งค่าและการใช้งานเหมือนกัน) MagSafe Wireless 15W ซึ่งช่วยให้ชาร์จได้เร็วกว่าการชาร์จแบบไร้สาย Qi ซึ่งเพิ่งใส่ Qi เพิ่มความสะดวกสบายในการชาร์จเป็นอย่างมาก

สรุป iPhone 11 vs iPhone 12 ปลายปี 2022 ซื้อรุ่นไหนดี?
iPhone 11 vs iPhone 12 ปลายปีซื้อรุ่นไหนดี? บอกได้คำเดียวว่าขึ้นอยู่กับเงินของเพื่อนๆ ซื้ออุปกรณ์อะไร เพราะโดยหลักการแล้ว iPhone เป็นโทรศัพท์มือถือที่ใช้งานได้นานพอสมควร หากคุณเป็นผู้ใช้ทั่วไปและไม่สนใจหน้าจอสีสวยและสามารถใช้ 5G ได้ iPhone 11 อาจมีราคาสูงกว่า โดยเฉพาะกับเครื่องมือสองที่ตอนนี้ราคาเริ่มแตะ 10,000 บาทขึ้นไป แต่ถ้าใครชอบแรงและไม่ห่วงแบตหมดไว iPhone 12 น่าจะตอบโจทย์ด้วยสเปกใหม่ที่สมบูรณ์กว่า เร็วกว่า แรงกว่า รองรับ 5G แถมยังเบาอีกด้วย
กล่าวโดยย่อ หากคุณต้องการ iPhone ราคาไม่แพงพร้อมแบตเตอรี่ที่ทรงพลัง ให้ไปที่ iPhone 11 แต่ถ้าคุณต้องการ iPhone ที่ทรงพลังซึ่งต้องการ 5G iPhone 12 เป็นตัวเลือกที่ดีกว่า (ถ้าเผื่อเงินไว้ ลองอัพเกรดเป็น iPhone 13 ก็ได้ครับ เพราะปัญหาแบตหมดของ iPhone 12 หมดไปแล้ว แต่ราคาจะสูงกว่าที่ควรจะเป็น)
Read More
#เทยบสเปก #iPhone #และ #iPhone #ปลายปน #ซอรนไหนถงจะคม #ในราคาทไมตางกนมากนก
[rule_3_plain]
#เทยบสเปก #iPhone #และ #iPhone #ปลายปน #ซอรนไหนถงจะคม #ในราคาทไมตางกนมากนก
iPhone 11 vs iPhone 12 ปลายปีนี้ซื้อรุ่นไหนดี หลังจากที่ Apple เปิดตัว iPhone 14 Series ไปแล้ว iPhone รุ่นก่อนหน้าก็มีการลดราคาลง ซึ่งตอนนี้ iPhone 11 และ iPhone 12 นั้นราคาลงมาในระดับที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นเยอะแล้ว วันนี้เราเลยจะลองมาเทียบสเปคดูว่า iPhone 11 หรือ iPhone 12 ตัวไหนน่าซื้อกว่ากัน ซึ่งตอนนี้ iPhone 11 ราคามือ 1 ต่ำกว่า 20,000 บาท มือสองราคาอยู่ที่ 10,000 – 13,000 บาท ส่วน iPhone 12 จะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 24,900 บาท มือสองอยู่ที่ 15,000 – 18,000 บาท ด้วยราคาที่ไม่ได้ห่างกันมากนักกับยุคที่ค่าใช้จ่ายสูงลิ่ว การใช้เงินให้คุ้มค่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่านั่นเอง สำหรับความแตกต่างด้านสเปคเราจะมาพูดกันไปทีละจุดเลยขนาด, น้ำหนัก และวัสดุหน้าจอชิปประมวลผลกล้องถ่ายภาพแบตเตอรี่สรุปขนาด, น้ำหนัก และวัสดุiPhone 12iPhone 11ขนาด146.7 x 71.5 x 7.4 มม.150.9 x 75.7 x 8.3 มม.น้ำหนัก162 กรัม194 กรัมวัสดุด้านหน้าแบบ Ceramic Shieldอะลูมิเนียมเกรดอุตสาหกรรมอวกาศด้านหน้าและด้านหลังแบบกระจกอะลูมิเนียมเกรดอุตสาหกรรมอวกาศเมื่อพูดถึงขนาดและน้ำหนักแล้ว iPhone 12 จะมีภาษีที่ดีกว่าด้วยหน้าจอที่มีขอบน้อยกว่า ส่งผลตัวตัวเครื่องมีขนาดที่เล็กลงเล็กน้อย แถมด้วยแบตเตอรี่ที่น้อยกว่าทำให้ตัวเครื่องบางและเบากว่า iPhone 11 ไปโดยปริยาย ในเรื่องของวัสดุนั้นทั้งคู่ใช้เฟรมเป็นอะลูมิเนียมเกรดอุตสาหกรรมอวกาศทำให้มีความแข็งแรงทนทานไม่ต่างกัน ฝาหลังก็เป็นกระจกเช่นกัน แต่ทางกระจกหน้าจอของ iPhone 12 จะมีการเคลือบ Ceramic ลงไปอีกชั้น ซึ่งตรงนี้จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงของหน้าจอได้อีกเล็กน้อย (แต่ถ้าติดฟิล์มไปก็ไม่แตกต่างแล้ว)หน้าจอiPhone 12iPhone11พาแนลSuper Retina XDR (OLED)Liquid Retina HD (IPS)ขนาด6.1 นิ้ว6.1 นิ้วความละเอียด2532 x 1170 พิกเซล1792 x 828 พิกเซลความหนาแน่น460 ppi326 ppiอัตราส่วนคอนทราสต์ 2,000,000:11,400:1HDRรองรับ–ความสว่างสูงสุด625 นิต625 นิตความสว่างสูงสุดเฉพาะจุด (HDR)1,200 นิต–ในส่วนของหน้าจอแสดงผลนั้นเมื่อดูจากสเปคแล้วยังไงๆ iPhone 12 ก้กินขาดด้วยหน้าจอแบบ OLED ที่ให้สีสันและความละเอียดที่ดีกว่าหน้าจอแบบ IPS ของ iPhone 11 แถมยังรองรับการแสดงผลแบบ HDR อีกด้วย แต่ถ้าพูดถึงการใช้งานระยะยาวแล้วหน้าจอแบบ OLED ก็มักจะมีปัญหามากกว่าหน้าอจแบบ IPS ด้วยเช่นกัรน ด้วยการที่มีการแสดงผลสีสันที่สวยสดกว่า รวมถึงมีความสว่างที่มากกว่า ทำให้หลอดไฟเสื่อมสภาพเร็วกว่าแถมยังกินแบตเตอรี่เยอะกว่าด้วยนั่นเอง เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่ต้องแลกระหว่างภาพสีสันสวยสด, หน้าจอสว่างๆ แต่เสื่อมสภาพเร็วและกินแบต กับหน้าจอสีสันจืดหน่อยๆ, แสงไม่ได้สว่างมากนัก แต่กินพลังงานน้อยและใช้งานได้นานชิปประมวลผลiPhone 12iPhone 11ชิปประมวลผลA14 BionicA13 BionicCPUประสิทธิภาพ 2 core @3.1 GHzประหยัดพลังงาน 4 core @1.8 GHzประสิทธิภาพ 2 core @2.65 GHzประหยัดพลังงาน 4 core @1.8 GHzGPU4 core4 coreNeural Engine16 core8 coreแรม4GB4GBความจุ64GB / 128GB / 256GB64GB / 128GB / 256GBในเรื่องของชิปประมวลผลนั้นเป็นที่แน่นอนอยู่แล้วว่าชิป A14 Bionic นั้นย่อมต้องแรงกว่า A13 Bionic เนื่องด้วยเทคโนโลยีที่ใหม่กว่า ความเร็วที่สูงกว่า อีกทั้งยังมีจำนวน Neural Engine เยอะกว่าด้วย นอกจากนี้ชิป A14 Bionic ยังรองรับการเชื่อมต่อ 5G อีกต่างหาก ถ้าพูดถึงสเปคโดยรวมแล้ว A14 Bionic ใน iPhone 12 นั้นย่อมต้องดีกว่า A13 Bionic ของ iPhone 11 แน่นอน แต่ทว่าในความเป็นจริงแล้ว 5G ของ iPhone 12 จนถึงทุกวันนี้ก็ยังนับว่าเป็นปัญหาในระดับหนึ่งเลยก็คือการรบริโภคพลังงานที่สูงมากๆ ทำให้เวลาใช้งานจริงๆ ส่วนใหญ่จะเปลี่ยนไปใช้ 4G แทนมากกว่า ส่งผลให้ข้อแตกต่างเรื่องคลื่นไม่ค่อยแตกต่างกันเท่าไรเมื่อเอาไปเทียบกับ A13 Bionic ของ iPhone 11อีกเรื่องที่ตอนนี้มีค่อนข้างแตกต่างกันเลยก็คือเรื่องของความจุ โดยมือ 1 นั้น iPhone 12 จะมีให้เลือกครบ แต่ iPhone 11 จะไม่มีความจุ 256GB ขายแล้ว ว่ากันตามตรงตอนนี้ส่วนใหญ่ทั้ง iPhone 12 และ iPhone 11 จะเหลือแค่รุ่น 64GB ให้ซื้อมากกว่า (ยกเว้นซื้อ iPhone 12 กับเว็บ Apple ที่มีให้เลือกครบ) ส่วนแบบมือสองนั้นจะมีให้เลือกครบทุกความจุเลยกล้องถ่ายภาพiPhone 12iPhone 11กล้องหลังWide : 12MP, f/1.6, OISUltra-wide : 12MP, f/2.4Wide : 12MP, f/1.8, OISUltra-wide : 12MP, f/2.4กล้องหน้าTrueDepth : 12MP, f/2.2TrueDepth : 12MP, f/2.2การบันทึกวิดีโอบันทึกวิดีโอระดับ 4K ที่ 24 fps, 25 fps, 30 fps หรือ 60 fpsบันทึกวิดีโอ HDR ในแบบ Dolby Vision สูงสุด 4K ที่ 30 fpsบันทึกวิดีโอระดับ 4K ที่ 24 fps, 25 fps, 30 fps หรือ 60 fpsDeep Fusionกล้องหน้ากล้องหลังกล้องหลังโหมดกลางคืนกล้องหน้ากล้องหลังรองรับไทม์แลปส์กล้องหลังในส่วนของกล้องถ่ายภาพนั้นทั้ง iPhone 12 และ iPhone 11 ต่างก็ใช้เซ็นเซอร์ขนาด 12MP เหมือนกันทุกเลนส์ แต่ทว่าทาง iPhone 12 จะเหนือกว่าในเรื่องของการถ่ายภาพในที่แสงน้อยด้วยรูรับแสงที่กว้างกว่า รวมไปถึงการที่มีโหลดกลางคืนในกล้องหน้า ช่วยให้สามารถถ่ายเซลฟี่ตอนกลางคืนได้ดีกว่า นอกจากนี้ในเรื่องของการบันทึกวิดีโอนั้น iPhone 12 ยังรองรัลการบันทึกแบบ HDR อีกด้วย แต่ถ้าพูดถึงการใช้งานในชีวิตประจำวันแล้วการบันทึกวิดีโอแบบ HDR ก็ดูออกจะมากไปหน่อย ถ้าเน้นไปที่การถ่ายภาพเป็นหลักเอาจริงๆ iPhone 11 ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้ว ทว่าถ้าต้องถ่ายภาพในที่แสงน้อยบ่อยๆ iPhone 12 ก็จะน่าสนใจกว่าเล็กน้อยแบตเตอรี่iPhone 12iPhone 11ขนาด2,815 mAh3,110 mAhระบบชาร์จPD2.0MagSafe 15WQi 7.5WPD2.0Qi 7.5Wในเรื่องของแบตเตอรี่นั้นถ้าจะเทียบกันมันก็กะไรอยู่เพราะในเรื่องระยะเวลาในการใช้งานรวมนั้นมันมีปัจจัยอื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยไม่ว่าจะเป็นการตั้งค่าต่างๆ, ชิปประมวลผลที่มี, หรือแม้กระทั่งความร้อนจากการใช้งาน จึงไม่สามารถเอามาเทียบกับจริงจังมากนักได้ แต่จากที่ได้ลองเล่นหลายๆ ครั้งมาจากความรู้สึกแล้วถ้า iPhone 12 เปิดใช้งานแค่ 4G แล้วแบตเตอรี่ดูจะอยู่ได้นานกว่า iPhone 11 เล็กน้อย (เมื่อตั้งค่าเหมือนกันและใช้งานแบเดียวกัน) แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่าก็คือระบบชาร์จ เนื่องจาก iPhone 12 นั้นรองรับการชาร์จไร้ส่ายแบบ MagSafe ที่มีกำลังไฟขนาด 15W ซึ่งช่วยให้การชาร์จนั้นมีความรวดเร็วกว่าการชาร์จไร้สายระบบ Qi อีกทั้งแท่นชาร์จแบบ MagSafe นั้นจะมีการยึดติดกันตัวเครื่องด้วยแม่เหล็กทำให้หลุดยากกว่า Qi ที่แค่วางลงไปเฉยๆ ช่วยเพิ่มความสะดวกหลายๆ อย่างในการชาร์จสรุป iPhone 11 vs iPhone 12 ปลายปี 2022 ซื้อรุ่นไหนดีiPhone 11 vs iPhone 12 ปลายปีนี้ซื้อรุ่นไหนดี ในที่นี้คงได้แต่ต้องบอกว่าทั้งหมดขึ้นอยู่กับเงินของเพื่อนๆ เลยว่าพอจะซื้อได้ตัวไหน เพราะตามหลักแล้ว iPhone นั้นเป็นมือถือที่มีระยะเวลาในการใช้งานที่ค่อนข้างยาวนาน ถ้าเป็นคนที่เอามาใช้งานทั่วๆ ไป ไม่ได้สนใจเรื่องจอสีสวยๆ กับใช้ 5G ได้ iPhone 11 อาจจะคุ้มค่ากว่า โดยเฉพาะกับเครื่องมือสองที่ราคาตอนนี้เริ่มแตะ 10,000 บาทถ้วนแล้ว แต่ถ้าเป็นคนที่ชอบความแรงและไม่ได้แคร์เรื่องแบตหมดเร็วมากนัก iPhone 12 น่าจะเป็นคำตอบที่ครบกว่าด้วยสเปคที่ใหม่กว่า, แรงกว่า, รองรับ 5G และยังบางเบากว่าอีกด้วยถ้าให้สรุปสั้นๆ เลยก็คือถ้าต้องการ iPhone ราคาไม่แพงเน้นแบตอึดๆ ให้เลือก iPhone 11 ไปเลย แต่ถ้าต้องการ iPhone แรงๆ ต้องการ 5G แล้ว iPhone 12 จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า (ถ้าเพิ่มเงินไหวอาจจะลองขึ้นเป็น iPhone 13 ดูก็ได้ เพราะปัญหาของ iPhone 12 เรื่องแบตลดเร็วได้รับการแก้ไขแล้วนั่นเอง แต่ราคาก็จะสูงกว่าพอควรด้วยนะ) jQuery(document).ready(function($) {
$.post(‘https://specphone.com/web/wp-admin/admin-ajax.php’, {action: ‘wpt_view_count’, id: ‘343811’});
}); jQuery(document).ready(function( $) {
$.post( ‘https://specphone.com/web/wp-admin/admin-ajax.php’, {action: ‘mts_view_count’, id: ‘343811’});
});
#เทยบสเปก #iPhone #และ #iPhone #ปลายปน #ซอรนไหนถงจะคม #ในราคาทไมตางกนมากนก
[rule_2_plain]
#เทยบสเปก #iPhone #และ #iPhone #ปลายปน #ซอรนไหนถงจะคม #ในราคาทไมตางกนมากนก
[rule_2_plain]
#เทยบสเปก #iPhone #และ #iPhone #ปลายปน #ซอรนไหนถงจะคม #ในราคาทไมตางกนมากนก
[rule_3_plain]
#เทยบสเปก #iPhone #และ #iPhone #ปลายปน #ซอรนไหนถงจะคม #ในราคาทไมตางกนมากนก
iPhone 11 vs iPhone 12 ปลายปีนี้ซื้อรุ่นไหนดี หลังจากที่ Apple เปิดตัว iPhone 14 Series ไปแล้ว iPhone รุ่นก่อนหน้าก็มีการลดราคาลง ซึ่งตอนนี้ iPhone 11 และ iPhone 12 นั้นราคาลงมาในระดับที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นเยอะแล้ว วันนี้เราเลยจะลองมาเทียบสเปคดูว่า iPhone 11 หรือ iPhone 12 ตัวไหนน่าซื้อกว่ากัน ซึ่งตอนนี้ iPhone 11 ราคามือ 1 ต่ำกว่า 20,000 บาท มือสองราคาอยู่ที่ 10,000 – 13,000 บาท ส่วน iPhone 12 จะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 24,900 บาท มือสองอยู่ที่ 15,000 – 18,000 บาท ด้วยราคาที่ไม่ได้ห่างกันมากนักกับยุคที่ค่าใช้จ่ายสูงลิ่ว การใช้เงินให้คุ้มค่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่านั่นเอง สำหรับความแตกต่างด้านสเปคเราจะมาพูดกันไปทีละจุดเลยขนาด, น้ำหนัก และวัสดุหน้าจอชิปประมวลผลกล้องถ่ายภาพแบตเตอรี่สรุปขนาด, น้ำหนัก และวัสดุiPhone 12iPhone 11ขนาด146.7 x 71.5 x 7.4 มม.150.9 x 75.7 x 8.3 มม.น้ำหนัก162 กรัม194 กรัมวัสดุด้านหน้าแบบ Ceramic Shieldอะลูมิเนียมเกรดอุตสาหกรรมอวกาศด้านหน้าและด้านหลังแบบกระจกอะลูมิเนียมเกรดอุตสาหกรรมอวกาศเมื่อพูดถึงขนาดและน้ำหนักแล้ว iPhone 12 จะมีภาษีที่ดีกว่าด้วยหน้าจอที่มีขอบน้อยกว่า ส่งผลตัวตัวเครื่องมีขนาดที่เล็กลงเล็กน้อย แถมด้วยแบตเตอรี่ที่น้อยกว่าทำให้ตัวเครื่องบางและเบากว่า iPhone 11 ไปโดยปริยาย ในเรื่องของวัสดุนั้นทั้งคู่ใช้เฟรมเป็นอะลูมิเนียมเกรดอุตสาหกรรมอวกาศทำให้มีความแข็งแรงทนทานไม่ต่างกัน ฝาหลังก็เป็นกระจกเช่นกัน แต่ทางกระจกหน้าจอของ iPhone 12 จะมีการเคลือบ Ceramic ลงไปอีกชั้น ซึ่งตรงนี้จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงของหน้าจอได้อีกเล็กน้อย (แต่ถ้าติดฟิล์มไปก็ไม่แตกต่างแล้ว)หน้าจอiPhone 12iPhone11พาแนลSuper Retina XDR (OLED)Liquid Retina HD (IPS)ขนาด6.1 นิ้ว6.1 นิ้วความละเอียด2532 x 1170 พิกเซล1792 x 828 พิกเซลความหนาแน่น460 ppi326 ppiอัตราส่วนคอนทราสต์ 2,000,000:11,400:1HDRรองรับ–ความสว่างสูงสุด625 นิต625 นิตความสว่างสูงสุดเฉพาะจุด (HDR)1,200 นิต–ในส่วนของหน้าจอแสดงผลนั้นเมื่อดูจากสเปคแล้วยังไงๆ iPhone 12 ก้กินขาดด้วยหน้าจอแบบ OLED ที่ให้สีสันและความละเอียดที่ดีกว่าหน้าจอแบบ IPS ของ iPhone 11 แถมยังรองรับการแสดงผลแบบ HDR อีกด้วย แต่ถ้าพูดถึงการใช้งานระยะยาวแล้วหน้าจอแบบ OLED ก็มักจะมีปัญหามากกว่าหน้าอจแบบ IPS ด้วยเช่นกัรน ด้วยการที่มีการแสดงผลสีสันที่สวยสดกว่า รวมถึงมีความสว่างที่มากกว่า ทำให้หลอดไฟเสื่อมสภาพเร็วกว่าแถมยังกินแบตเตอรี่เยอะกว่าด้วยนั่นเอง เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่ต้องแลกระหว่างภาพสีสันสวยสด, หน้าจอสว่างๆ แต่เสื่อมสภาพเร็วและกินแบต กับหน้าจอสีสันจืดหน่อยๆ, แสงไม่ได้สว่างมากนัก แต่กินพลังงานน้อยและใช้งานได้นานชิปประมวลผลiPhone 12iPhone 11ชิปประมวลผลA14 BionicA13 BionicCPUประสิทธิภาพ 2 core @3.1 GHzประหยัดพลังงาน 4 core @1.8 GHzประสิทธิภาพ 2 core @2.65 GHzประหยัดพลังงาน 4 core @1.8 GHzGPU4 core4 coreNeural Engine16 core8 coreแรม4GB4GBความจุ64GB / 128GB / 256GB64GB / 128GB / 256GBในเรื่องของชิปประมวลผลนั้นเป็นที่แน่นอนอยู่แล้วว่าชิป A14 Bionic นั้นย่อมต้องแรงกว่า A13 Bionic เนื่องด้วยเทคโนโลยีที่ใหม่กว่า ความเร็วที่สูงกว่า อีกทั้งยังมีจำนวน Neural Engine เยอะกว่าด้วย นอกจากนี้ชิป A14 Bionic ยังรองรับการเชื่อมต่อ 5G อีกต่างหาก ถ้าพูดถึงสเปคโดยรวมแล้ว A14 Bionic ใน iPhone 12 นั้นย่อมต้องดีกว่า A13 Bionic ของ iPhone 11 แน่นอน แต่ทว่าในความเป็นจริงแล้ว 5G ของ iPhone 12 จนถึงทุกวันนี้ก็ยังนับว่าเป็นปัญหาในระดับหนึ่งเลยก็คือการรบริโภคพลังงานที่สูงมากๆ ทำให้เวลาใช้งานจริงๆ ส่วนใหญ่จะเปลี่ยนไปใช้ 4G แทนมากกว่า ส่งผลให้ข้อแตกต่างเรื่องคลื่นไม่ค่อยแตกต่างกันเท่าไรเมื่อเอาไปเทียบกับ A13 Bionic ของ iPhone 11อีกเรื่องที่ตอนนี้มีค่อนข้างแตกต่างกันเลยก็คือเรื่องของความจุ โดยมือ 1 นั้น iPhone 12 จะมีให้เลือกครบ แต่ iPhone 11 จะไม่มีความจุ 256GB ขายแล้ว ว่ากันตามตรงตอนนี้ส่วนใหญ่ทั้ง iPhone 12 และ iPhone 11 จะเหลือแค่รุ่น 64GB ให้ซื้อมากกว่า (ยกเว้นซื้อ iPhone 12 กับเว็บ Apple ที่มีให้เลือกครบ) ส่วนแบบมือสองนั้นจะมีให้เลือกครบทุกความจุเลยกล้องถ่ายภาพiPhone 12iPhone 11กล้องหลังWide : 12MP, f/1.6, OISUltra-wide : 12MP, f/2.4Wide : 12MP, f/1.8, OISUltra-wide : 12MP, f/2.4กล้องหน้าTrueDepth : 12MP, f/2.2TrueDepth : 12MP, f/2.2การบันทึกวิดีโอบันทึกวิดีโอระดับ 4K ที่ 24 fps, 25 fps, 30 fps หรือ 60 fpsบันทึกวิดีโอ HDR ในแบบ Dolby Vision สูงสุด 4K ที่ 30 fpsบันทึกวิดีโอระดับ 4K ที่ 24 fps, 25 fps, 30 fps หรือ 60 fpsDeep Fusionกล้องหน้ากล้องหลังกล้องหลังโหมดกลางคืนกล้องหน้ากล้องหลังรองรับไทม์แลปส์กล้องหลังในส่วนของกล้องถ่ายภาพนั้นทั้ง iPhone 12 และ iPhone 11 ต่างก็ใช้เซ็นเซอร์ขนาด 12MP เหมือนกันทุกเลนส์ แต่ทว่าทาง iPhone 12 จะเหนือกว่าในเรื่องของการถ่ายภาพในที่แสงน้อยด้วยรูรับแสงที่กว้างกว่า รวมไปถึงการที่มีโหลดกลางคืนในกล้องหน้า ช่วยให้สามารถถ่ายเซลฟี่ตอนกลางคืนได้ดีกว่า นอกจากนี้ในเรื่องของการบันทึกวิดีโอนั้น iPhone 12 ยังรองรัลการบันทึกแบบ HDR อีกด้วย แต่ถ้าพูดถึงการใช้งานในชีวิตประจำวันแล้วการบันทึกวิดีโอแบบ HDR ก็ดูออกจะมากไปหน่อย ถ้าเน้นไปที่การถ่ายภาพเป็นหลักเอาจริงๆ iPhone 11 ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้ว ทว่าถ้าต้องถ่ายภาพในที่แสงน้อยบ่อยๆ iPhone 12 ก็จะน่าสนใจกว่าเล็กน้อยแบตเตอรี่iPhone 12iPhone 11ขนาด2,815 mAh3,110 mAhระบบชาร์จPD2.0MagSafe 15WQi 7.5WPD2.0Qi 7.5Wในเรื่องของแบตเตอรี่นั้นถ้าจะเทียบกันมันก็กะไรอยู่เพราะในเรื่องระยะเวลาในการใช้งานรวมนั้นมันมีปัจจัยอื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยไม่ว่าจะเป็นการตั้งค่าต่างๆ, ชิปประมวลผลที่มี, หรือแม้กระทั่งความร้อนจากการใช้งาน จึงไม่สามารถเอามาเทียบกับจริงจังมากนักได้ แต่จากที่ได้ลองเล่นหลายๆ ครั้งมาจากความรู้สึกแล้วถ้า iPhone 12 เปิดใช้งานแค่ 4G แล้วแบตเตอรี่ดูจะอยู่ได้นานกว่า iPhone 11 เล็กน้อย (เมื่อตั้งค่าเหมือนกันและใช้งานแบเดียวกัน) แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่าก็คือระบบชาร์จ เนื่องจาก iPhone 12 นั้นรองรับการชาร์จไร้ส่ายแบบ MagSafe ที่มีกำลังไฟขนาด 15W ซึ่งช่วยให้การชาร์จนั้นมีความรวดเร็วกว่าการชาร์จไร้สายระบบ Qi อีกทั้งแท่นชาร์จแบบ MagSafe นั้นจะมีการยึดติดกันตัวเครื่องด้วยแม่เหล็กทำให้หลุดยากกว่า Qi ที่แค่วางลงไปเฉยๆ ช่วยเพิ่มความสะดวกหลายๆ อย่างในการชาร์จสรุป iPhone 11 vs iPhone 12 ปลายปี 2022 ซื้อรุ่นไหนดีiPhone 11 vs iPhone 12 ปลายปีนี้ซื้อรุ่นไหนดี ในที่นี้คงได้แต่ต้องบอกว่าทั้งหมดขึ้นอยู่กับเงินของเพื่อนๆ เลยว่าพอจะซื้อได้ตัวไหน เพราะตามหลักแล้ว iPhone นั้นเป็นมือถือที่มีระยะเวลาในการใช้งานที่ค่อนข้างยาวนาน ถ้าเป็นคนที่เอามาใช้งานทั่วๆ ไป ไม่ได้สนใจเรื่องจอสีสวยๆ กับใช้ 5G ได้ iPhone 11 อาจจะคุ้มค่ากว่า โดยเฉพาะกับเครื่องมือสองที่ราคาตอนนี้เริ่มแตะ 10,000 บาทถ้วนแล้ว แต่ถ้าเป็นคนที่ชอบความแรงและไม่ได้แคร์เรื่องแบตหมดเร็วมากนัก iPhone 12 น่าจะเป็นคำตอบที่ครบกว่าด้วยสเปคที่ใหม่กว่า, แรงกว่า, รองรับ 5G และยังบางเบากว่าอีกด้วยถ้าให้สรุปสั้นๆ เลยก็คือถ้าต้องการ iPhone ราคาไม่แพงเน้นแบตอึดๆ ให้เลือก iPhone 11 ไปเลย แต่ถ้าต้องการ iPhone แรงๆ ต้องการ 5G แล้ว iPhone 12 จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า (ถ้าเพิ่มเงินไหวอาจจะลองขึ้นเป็น iPhone 13 ดูก็ได้ เพราะปัญหาของ iPhone 12 เรื่องแบตลดเร็วได้รับการแก้ไขแล้วนั่นเอง แต่ราคาก็จะสูงกว่าพอควรด้วยนะ) jQuery(document).ready(function($) {
$.post(‘https://specphone.com/web/wp-admin/admin-ajax.php’, {action: ‘wpt_view_count’, id: ‘343811’});
}); jQuery(document).ready(function( $) {
$.post( ‘https://specphone.com/web/wp-admin/admin-ajax.php’, {action: ‘mts_view_count’, id: ‘343811’});
});