Editorial

แนะนำ Redmi Note 11 Pro Plus 5G สเปคกล้อง 108MP ถ่ายรูปสวย จอ 120Hz ชาร์จไว 120W เล่นเกมสเปคแรง

Redmi Note 11 Pro Plus 5G สเปค ราคา เข้าไทย fea

แนะนำ Redmi Note 11 Pro Plus 5G สเปคกล้อง 108MP ถ่ายรูปสวย จอ 120Hz ชาร์จไว 120W เล่นเกมสเปคแรง

มือถือตัวแรงที่เปิดตัวปลายเดือนมีนาคม 2022 อีกหนึ่งรุ่นในซีรีส์ Redmi Note 11 Series และเรียกได้ว่าเป็นรุ่นท็อปเลยก็ว่าได้ Redmi Note 11 Pro Plus 5G ที่มีสเปคเหนือกว่ารุ่นอื่นๆ หลายขุม ไม่ว่าจะเป็นความแรงของตัวเครื่อง หน้าจอสวยใสลื่นไหล เล่นเกมได้ดีมาก และที่สำคัญ ได้กล้องมาถ่ายรูปสวยๆ จนถึงระดับเรือธงเลยทีเดียว แถมยังมีลำโพงที่ให้เสียงโดดเด่นกว่าใคร แต่สำหรับบ้านเราต้องรอราคาวางจำหน่ายอีกครั้ง เพราะตอนนี้ยังไม่ได้นำเข้าอย่างเป็นทางการ แต่รุ่นนี้ถ้าดูสเปคจริง ก็แอบคล้าย Redmi Note 11 Pro 5G อยู่เหมือนกัน มันจะแตกต่างกันเล็กน้อยในชิปและแบตเตอรี่ คาดว่าราคาคงไม่ต่างกันมากเช่นกัน ต้องรอดูกันอีกทีว่าราคาจะเข้ามากี่บาท แล้วจะเข้ามาเมื่อไหร่? ใครที่สนใจรุ่นนี้ วันนี้ Specphone จะมาแนะนำสเปคของ Redmi Note 11 Pro Plus 5G ที่ถ่ายรูปได้สวย ด้วยกล้องหลักระดับเรือธง 108MP ทำให้หน้าจอลื่นไหลถึง 120Hz แถมยังได้สเปคเร็วแรงที่สามารถใช้งาน 5G ได้อีกด้วย

  • การออกแบบเครื่อง
  • สเปคหน้าจอ
  • ชิปประมวลผล
  • กล้องหน้าและกล้องหลัง
  • ความจุแบตเตอรี่ การเชื่อมต่อ และราคา
  • ตารางเปรียบเทียบ Redmi Note 11 Pro Plus 5G กับรุ่นอื่นๆ ในซีรีส์เดียวกัน

ดีไซน์ตัวเครื่องสวยงามตามแบบฉบับ Note 11 Pro

Redmi Note 11 Pro Plus 5G สเปค ราคา เข้าไทย 1

เริ่มกันที่ดีไซน์ตัวเครื่องของรุ่นนี้กันก่อน มีการกล่าวว่ารุ่นของอุปกรณ์นี้คล้ายกับ Redmi Note 11 Pro และ Redmi Note 11 Pro 5G แต่ไม่เหมือนกันทั้งหมด เพราะรุ่นนี้หนากว่า 8.34 มม. หนัก 204 กรัม และสั้นกว่าเล็กน้อยเท่านั้น แต่ก็มีความคล้ายคลึงกันตรงที่เป็นทรงเหลี่ยม กรอบแบน และมีฝาหลังเป็นกระจกเช่นกัน ด้านหน้ามีหน้าจอแบบ Punch-Hole Display พร้อมกล้องอยู่ตรงกลาง ประกอบกับโมดูลกล้องหลังของรุ่นนี้จะไม่เหมือนกันทั้ง 2 รุ่น เพราะ Redmi Note 11 Pro Plus 5G นี้จะมีตัวเลข 108MP ที่กล้องหลังในแนวนอนกับตัวเครื่อง สำหรับสองรุ่นก่อนหน้านี้จะแสดงเป็นแนวตั้งแทน แต่ยังมีกล้อง 3 ตัวเหมือนรุ่น 5G pro อีกด้วย รุ่นนี้จะสามารถสแกนลายนิ้วมือได้จากด้านข้างตัวเครื่อง และสามารถใช้ AI Face เพื่อปลดล็อกหน้าจอได้ด้วย พร้อมทั้งกันฝุ่นและน้ำระดับ IP53 สีของตัวเครื่องจะมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Graphite Grey, Star Blue และ Forest Green


จอชัดลื่นไหล120Hz

Redmi Note 11 Pro Plus 5G สเปค ราคา เข้าไทย 2

มาที่เรื่องหน้าจอของ Redmi Note 11 Pro Plus 5G กันบ้าง ซึ่งก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน ด้วยหน้าจอ Corning Gorilla Glass 5 แบบ AMOLED (FHD+) ให้การแสดงผลหน้าจอที่คมชัดพร้อมสีสันที่สวยงาม และสามารถแสดงผลได้สูงสุด HDR 10 ด้วยขอบเขตสี DCI-P3 แม้ในที่มีแสงจ้า ไม่ต้องกังวลกับความสว่างหน้าจอสูงถึง 1200 นิต พร้อมการตรวจสอบแสงแบบ 360 องศาที่แม่นยำ รุ่นนี้จะมีหน้าจอกว้าง 6.67 นิ้ว ใหญ่เท่ากับรุ่นโปร 5G ทั่วไป และยังมีความลื่นไหลของหน้าจอด้วยอัตราการรีเฟรช 120Hz พร้อมกับอัตราการสุ่มตัวอย่างการสัมผัสสูงถึง 360Hz สัมผัสแม่นยำ เล่นเกมได้ดีมาก ดี. นอกจากนี้หน้าจอยังเป็นแบบเจาะรูกล้องหน้าหรือ Punch-Hole Display ตรงกลางหน้าจออีกด้วย ทำให้ไม่สู้การใช้งานมากเกินไป และยังถนอมสายตาอีกด้วย


ชิปประมวลผลอันทรงพลัง

Redmi Note 11 Pro Plus 5G สเปค ราคา เข้าไทย 3

มาถึงจุดสำคัญที่ทำให้รุ่นนี้แตกต่างจากรุ่นโปรและรุ่นอื่นๆ นั่นคือ ชิปประมวลผลในรุ่นนี้คือ Dimensity 920 5G ซึ่งมีความเร็วสูงสุดถึง 2.5GHz ในขณะที่รุ่นโปร 5G จะมีชิป Snapdragon 695 ที่ 2.2GHz เท่านั้น เล่นเกมและใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย ที่สำคัญ รุ่นนี้ยังมีระบบระบายความร้อนด้วย LiquidCool และถือเป็น Redmi รุ่นแรกที่มีระบบระบายความร้อนแบบ Vapor Chamber ที่น่าสนใจคือ Redmi Note 11 Pro Plus 5G มีระบบเสียงที่ออกแบบโดย JBL พร้อมลำโพงสเตอริโอคู่ที่รองรับทั้ง Dolby Atmos, Hi-Res AUDIO และ Hi-Res AUDIO Wireless เพื่อเสียงที่มีความคมชัดสูง กระจายไปทั่วไม่ว่าจะดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกม ดื่มด่ำกับเสียงระดับเทพ สำหรับหน่วยความจำรุ่นนี้จะมีให้เลือกทั้ง RAM 6GB / 8GB และ ROM 128GB / 256GB และทำงานบนระบบ MIUI 12.5 บนพื้นฐาน Android 11 แต่ต้องรอดูกันอีกทีว่ารุ่นที่เข้าไทยจะมีความจุเท่าไหร่ . ใช่


กล้องหน้าและกล้องหลังระดับเรือธง

Redmi Note 11 Pro Plus 5G สเปค ราคา เข้าไทย 4

จุดเด่นอีกอย่างของ Redmi Note 11 Pro Plus 5G ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของกล้อง ซึ่งแม้ว่ากล้องหน้าจะมีสเปคเหมือนกับรุ่น 5G pro คือความละเอียด 16MP เซลฟี่ได้สวยคมชัดทุกมุมมอง แต่กล้องหลัง 3 ตัวที่เหมือนกันก็จะมีสเปกที่แตกต่างกันเช่นกัน รุ่นนี้มีกล้องหลัก 108MP (ƒ/1.8) ในขณะที่ 5G Pro มีเลนส์อัลตร้าไวด์ 108MP (ƒ/1.9) 8MP (ƒ/2.2) ที่เปิดได้สูงสุด 120 องศา (Pro 5G ได้ 118 องศา) และสุดท้าย เลนส์มาโคร 2MP เท่าเดิม (ƒ/2.4) พร้อมบันทึกวิดีโอสูงสุด 4K (30fps) เก็บทุกช่วงเวลาไม่ว่าจะใกล้หรือไกล เก็บรายละเอียดได้ดีมาก ทั้ง AI Skycaping และฟีเจอร์อื่นๆ อีกมากมายที่สนับสนุนการถ่ายภาพอย่างสร้างสรรค์ให้สนุกยิ่งขึ้นอีกด้วย ใครที่กำลังมองหามือถือ 5G สำหรับถ่ายภาพสวยๆ หรือถ่ายวิดีโอเพื่อสร้างคอนเทนต์ต่างๆ รุ่นนี้ยังตอบโจทย์การใช้งานได้หลายรูปแบบ เมื่อเทียบกับรุ่น 5G Pro รุ่นนี้มีกล้องที่ดีกว่าเล็กน้อย


ความจุแบตเตอรี่ การเชื่อมต่อ และราคาอย่างไม่เป็นทางการ

Redmi Note 11 Pro Plus 5G สเปค ราคา เข้าไทย 5

สุดท้ายกับความจุแบตเตอรี่รุ่นนี้มีความจุ 4500 mAh ซึ่งน้อยกว่ารุ่นอื่นที่มี 5,000 mAh แต่ Redmi Note 11 Pro Plus 5G นี้รองรับ 120W HyperCharge ที่แถมมาในกล่อง ถ้าถามว่าเร็วแค่ไหนก็เร็วจนสามารถชาร์จเต็ม 100% ในเวลา 15 นาทีด้วยโหมด Boost ไม่ต้องรอนานให้เสียเวลากลับมาใช้งานได้อีก และด้วยสเปคชิปประหยัดพลังงานอยู่แล้ว ทำให้รุ่นนี้ดูวิดีโอได้นาน 18 ชม. และฟังเพลงต่อเนื่องสูงสุด 140 ชม. สำหรับการเชื่อมต่อรุ่นนี้มีพอร์ต USB Type-C, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และสามารถเชื่อมต่อได้ทั้ง 5G, NFC, Wi-Fi 6 และ Bluetooth 5.2 สำหรับราคารุ่นนี้ยังไม่มีราคาอย่างเป็นทางการ ทางการไทยออกมา จะมีเฉพาะราคานำเข้าที่เป็นเครื่องจีน ราคา 12,890-13,890 บาท แต่คาดว่าเข้าไทยราคาไม่เกิน 15,000 บาทอย่างแน่นอน ดูสเปคเต็มๆได้ที่นี่


ตารางเปรียบเทียบ Redmi Note 11 Pro Plus 5G กับรุ่นอื่นๆ ในซีรีส์เดียวกัน

ข้อมูล แบบอย่าง เรดมี โน้ต 11 โปร พลัส 5G เรดมี โน้ต 11 โปร 5G เรดมี โน้ต 11 โปร เรดมี โน้ต 11S
หน้าจอ อโมล์
กว้าง6.67นิ้ว
อโมล์
กว้าง6.67นิ้ว
อโมล์
กว้าง6.67นิ้ว
อโมล์
กว้าง6.43นิ้ว
ชิป ขนาด 920 5G สแน็ปดราก้อน 695 5G เฮลิโอ G96 เฮลิโอ G96
กล้องด้านหน้า 16MP 16MP 16MP 16MP
กล้องหลัง 108MP + 8MP + 2MP 108MP + 8MP + 2MP 108MP + 8MP + 2MP + 2MP 108MP + 8MP + 2MP + 2MP
แรม/รอม 6GB, 8GB/
128GB, 256GB
8GB/128GB 8GB/128GB 8GB/128GB
ไมโครเอสดี 1TB 1TB 1TB 1TB
แบตเตอรี่ 4,500 มิลลิแอมป์
ไฮเปอร์ชาร์จ 120W
5000 มิลลิแอมป์
เทอร์โบชาร์จ 67W
5000 มิลลิแอมป์
เทอร์โบชาร์จ 67W
5000 มิลลิแอมป์
ชาร์จเร็ว 33W
ราคา ราคาในไทยยังไม่มี 10,990 บาท 8,999 บาท 8,299 บาท
*ราคาทั้งหมดเป็นราคาช่วงแนะนำเท่านั้น

และทั้งหมดนี้คือข้อมูลเกี่ยวกับ Redmi Note 11 Pro Plus 5G รุ่นท็อปในซีรีส์ Redmi Note 11 ที่ออกมาหลายรุ่น ซึ่งรุ่นนี้หากดูตารางเปรียบเทียบสเปคด้านบนแล้ว จะเห็นว่ามีความใกล้เคียงกับ Redmi Note 11 Pro 5G มาก แต่รายละเอียดสเปคจะต่างกันตามข้อมูลข้างต้น และแน่นอนว่ารุ่น 5G จะมีสเปคกล้องและสเปคอื่นๆ ลดลงด้วย ไม่เหมือนรุ่น 4G ที่มีกล้องและสเปคอื่นๆ ที่ดีกว่า ที่ค่อนข้างแตกต่างกัน รุ่นนี้เหมาะสำหรับคนที่ต้องการใช้งาน 5G และต้องการเน้นเล่นเกมหรือถ่ายรูปเป็นหลัก แต่ถ้าใครคิดว่าไม่ได้ใช้ 5G อยู่แล้ว ก็เลือกเป็น Redmi Note 11 Pro ธรรมดาที่มีสเปกทั่วไปดีๆ และมีราคาที่ถูกกว่ารุ่น 5G อีกด้วย หากมีอย่างอื่นที่น่าสนใจเราจะนำมาฝากกันต่อไป



Read More

แนะนำ Redmi Note 11 Pro Plus 5G สเปคกล้อง 108MP ถ่ายรูปสวย จอ 120Hz ชาร์จไว 120W เล่นเกมสเปคแรง

#แนะนำ #Redmi #Note #Pro #สเปคกลอง #108MP #ถายรปสวย #จอ #120Hz #ชารจไว #120W #เลนเกมสเปคแรง
[rule_3_plain] #แนะนำ #Redmi #Note #Pro #สเปคกลอง #108MP #ถายรปสวย #จอ #120Hz #ชารจไว #120W #เลนเกมสเปคแรง
แนะนำ Redmi Note 11 Pro Plus 5G สเปคกล้อง 108MP ถ่ายรูปสวย หน้าจอ 120Hz ชาร์จเร็ว 120W เล่นเกมได้ด้วยสเปคแรงมือถือตัวแรงที่เปิดตัวออกมาในช่วงสิ้นเดือนมีนาคม 2565 ที่ผ่านมาอีกหนึ่งรุ่น ในซีรีส์ของ Redmi Note 11 Series และเรียกได้ว่าเป็นรุ่นตัวท็อปสุดแล้วก็ว่าได้ นั่นก็คือตัว Redmi Note 11 Pro Plus 5G ที่มีสเปคเกินรุ่นอื่นๆ ไปหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นความแรงของตัวเครื่อง หน้าจอสวยใสไหลลื่น เล่นเกมได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญคือได้กล้องมาถ่ายรูปได้แบบสวยๆ ถึงระดับเรือธงเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีลำโพงที่ให้เสียงโดดเด่นกว่าใครด้วย แต่สำหรับในบ้านเราก็ต้องรอราคาที่จะนำมาวางขายกันอีกรอบ เพราะตอนนี้ยังไม่ได้นำเข้ามาอย่างเป็นทางการ แต่รุ่นนี้ถ้าดูจากสเปคจริงๆ ก็มีความแอบคล้ายกับ Redmi Note 11 Pro 5G อยู่เหมือนกัน จะแตกต่างกันที่ชิปและแบตนิดหน่อย คาดว่าราคาก็คงจะไม่ต่างกันมากด้วย ต้องมารอดูกันอีกทีว่าจะมีราคาเข้ามาที่กี่บาท และจะเข้ามาตอนไหน ใครที่กำลังสนใจรุ่นนี้อยู่ วันนี้ทาง Specphone จะมาแนะนำสเปคของ Redmi Note 11 Pro Plus 5G ที่สามารถถ่ายรูปได้แบบสวยๆ ด้วยกล้องหลักระดับเรือธง 108MP หน้าจอไหลลื่นถึง 120Hz และยังได้สเปคเร็วแรงใช้งาน 5G ได้ด้วยดีไซน์ตัวเครื่องสเปคหน้าจอชิปประมวลผลกล้องหน้า และกล้องหลังความจุแบตเตอรี่ การเชื่อมต่อ และราคาตารางเปรียบเทียบ Redmi Note 11 Pro Plus 5G กับรุ่นอื่นในซีรีส์เดียวกันดีไซน์ตัวเครื่องสวยงามตามแบบฉบับ Note 11 Proเริ่มต้นกันด้วยการดีไซน์ตัวเครื่องของรุ่นนี้กันก่อนเลย ซึ่งรูปแบบตัวเครื่องนี้จะบอกว่าคล้ายๆ กับตัว Redmi Note 11 Pro และ Redmi Note 11 Pro 5G เลยก็ว่าได้ แต่ก็ไม่เหมือนกันทั้งหมดทีเดียว เพราะรุ่นนี้จะมีความหนากว่าที่ 8.34 มม. มีน้ำหนัก 204 กรัม และมีขนาดที่สั้นกว่าเล็กน้อยเท่านั้น แต่ก็ยังมีความคล้ายกันตรงที่เป็นเหลี่ยมๆ กับกรอบแบน และมีฝาหลังหลังเป็นกระจกเหมือนกันด้วย ส่วนด้านหน้าก็มีจอเป็นแบบ Punch-Hole Display มีกล้องตรงกลาง พร้อมกับโมดูลกล้องหลังของรุ่นนี้ก็ไม่เหมือนกับทั้งสองรุ่น เพราะ Redmi Note 11 Pro Plus 5G ตัวนี้จะมีการบอกเลข 108MP ที่กล้องหลังในแนวนอนไปกับตัวเครื่อง ส่วนทั้งสองรุ่นก่อนหน้านี้จะบอกไว้เป็นแนวตั้งแทน แต่ทั้งนี้ก็ยังคงมีกล้องที่เป็น 3 ตัวเหมือนกับรุ่นโปร 5G เช่นกัน ส่วนการปลดล็อคหน้าจอ รุ่นนี้จะสามารถสแกนลายนิ้วมือได้จากด้านข้างตัวเครื่อง และสามารถใช้งาน AI Face เพื่อปลดล็อคหน้าจอได้ด้วย พร้อมกับคุณสมบัติกันฝุ่นและละอองน้ำระดับ IP53 ส่วนสีของตัวเครื่องจะมีให้เลือก 3 สีคือ Graphite Gray, Star Blue และ Forest Greenหน้าจอคมชัดไหลลื่น 120Hzมาที่เรื่องของหน้าจอของ Redmi Note 11 Pro Plus 5G กันบ้างที่ไม่ธรรมดาเหมือนกัน ด้วยหน้าจอกระจก Corning Gorilla Glass 5 ที่เป็นแบบ AMOLED (FHD+) ให้การแสดงผลหน้าจอที่คมชัดสีสันสวยงาม และแสดงผลได้ถึงระดับ HDR 10 พร้อมขอบเขตสีระดับ DCI-P3 ถึงแม้ว่าจะออกไปยังที่ที่มีแสงจ้ามากๆ ก็ไม่ต้องกังวลด้วยความสว่างหน้าจอมากถึง 1200 นิต มีการตรวจสอบแสงได้แม่นยำ 360 องศาเลยทีเดียว รุ่นนี้จะมีความกว้างหน้าจอที่ 6.67 นิ้ว ใหญ่เท่ากับรุ่นโปร 5G ธรรมดาเลย และยังมีความไหลลื่นของหน้าจอด้วยอัตรา Refresh Rate 120Hz พร้อมกับ Touch sampling rate มากถึง 360Hz สัมผัสได้อย่างแม่นยำเล่นเกมได้เป็นอย่างดีแน่นอน นอกจากนี้หน้าจอยังเป็นแบบเจาะรูกล้องหน้าหรือ Punch-Hole Display ตรงกลางหน้าจอ ทำให้ไม่รบการใช้งานมากเกินไป และยังถนอมสายตาได้ดีอีกด้วยชิปประมวลผลตัวแรงมาถึงจุดสำคัญที่ทำให้รุ่นนี้มีความต่างจากรุ่นโปรและรุ่นอื่นๆ นั่นก็คือชิปประมวลผลที่รุ่นนี้เป็น Dimensity 920 5G ให้ความเร็วถึง 2.5GHz ในขณะที่รุ่นโปร 5G จะมีชิปเป็น Snapdragon 695 ที่ความเร็ว 2.2GHz เท่านั้น ส่วนตัว GPU ก็ได้ใช้เป็นตัว Mali G68 เข้ามาช่วยให้รุ่นนี้สามารถเล่นเกม และใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย ที่สำคัญคือรุ่นนี้ก็ยังมีระบบระบายความร้อนแบบ LiquidCool และถือเป็นรุ่นแรกของ Redmi เลยที่มีระบบ Vapor Chamber Cooling ระบายความร้อน ที่น่าสนใจก็คือ Redmi Note 11 Pro Plus 5G รุ่นนี้มีเสียงที่ออกแบบโดย JBL พร้อมลำโพงสเตอริโอคู่ รองรับทั้ง Dolby Atmos, Hi-Res AUDIO และ Hi-Res AUDIO Wireless ให้เสียงคมชัดความละเอียดสูง กระจายรอบทิศทาง ไม่ว่าจะดูหนัง ฟังเพลง หรือว่าจะเล่นเกมก็ดื่มด่ำไปกับเสียงระดับเทพ ส่วนความจำรุ่นนี้จะมีให้เลือกทั้งแบบ RAM 6GB / 8GB และ ROM 128GB / 256GB และทำงานบนระบบ MIUI 12.5, based on Android 11 แต่ต้องรอดูอีกทีว่ารุ่นที่เข้าไทยนั้นจะเป็นความจุเท่าไหร่บ้างนะกล้องหน้า และกล้องหลังระดับเรือธงจุดเด่นของ Redmi Note 11 Pro Plus 5G อีกหนึ่งอย่างก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของกล้อง ที่ถึงแม้ว่ากล้องหน้าจะมีสเปคเท่ากับรุ่นโปร 5G เลยคือความละเอียด 16MP เซลฟี่ได้สวยคมชัดทุกมุมมอง แต่ว่ากล้องหลังที่มี 3 ตัวเหมือนกันนั้น จะมีสเปคที่ไม่เหมือนกันอยู่ด้วย โดยรุ่นนี้จะมีกล้องหลักความละเอียด 108MP (ƒ/1.8) ในขณะที่รุ่นโปร 5G จะมี 108MP (ƒ/1.9)  เลนส์อัลตร้าไวด์ 8MP (ƒ/2.2) ที่สามารถเปิดกว้างได้ถึง 120 องศา (รุ่นโปร 5G ได้ 118 องศา) และสุดท้ายคือเลนส์มาโคร 2MP (ƒ/2.4) เหมือนกัน พร้อมกับถ่ายวิดีโอได้ถึงระดับ 4K (30fps) ถ่ายได้ทุกช่วงเวลาไม่ว่าจะมุมใกล้หรือมุมไกล ก็เก็บรายละเอียดได้เป็นอย่างดี รวมไปถึง AI Skycaping และฟีเจอร์อื่นๆ อีกมากมายรองรับการสร้างสรรค์การถ่ายรูปได้สนุกมากยิ่งขึ้นด้วย ใครที่มองหามือถือ 5G สำหรับถ่ายรูปได้สวยๆ หรือจะถ่ายวิดีโอทำคอนเทนต์ต่างๆ รุ่นนี้ก็ยังตอบโจทย์การใช้งานในหลายรูปแบบอยู่ดี ถ้าเทียบกับรุ่นโปร 5G รุ่นนี้ก็ยังมีกล้องที่เหนือกว่านิดหน่อยด้วยความจุแบตเตอรี่ การเชื่อมต่อ และราคาที่ยังไม่เป็นทางการปิดท้ายกันด้วยเรื่องของความจุแบตเตอรี่ที่รุ่นนี้ได้ความจุมา 4500 mAh ซึ่งจะน้อยกว่ารุ่นอื่นๆ ที่มี 5000 mAh แต่ว่า Redmi Note 11 Pro Plus 5G ตัวนี้ก็มีการรองรับ HyperCharge 120W ที่มีมาให้ในกล่องเลยด้วย ถ้าถามว่าเร็วแค่ไหนก็เร็วจนสามารถชาร์จเต็ม 100% ได้ภายในเวลา 15 นาทีด้วยโหมด Boost กันเลยทีเดียว ไม่ต้องรอนานให้เสียเวลาก็กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง และด้วยสเปคชิปที่ประหยัดพลังงานอยู่แล้ว จึงทำให้รุ่นนี้สามารถดูวิดีโอได้ยาวๆ 18 ชม. และฟังเพลงได้ต่อเนื่องถึง 140 ชั่วโมงเลยทีเดียว ส่วนการเชื่อมต่อรุ่นนี้จะมีพอร์ต USB Type-C มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และเชื่อมต่อได้ทั้ง 5G, NFC, Wi-Fi 6 และ Bluetooth 5.2 ส่วนทางด้านของราคารุ่นนี้ยังไม่มีราคาอย่างเป็นทางการของไทยออกมา จะมีเพียงราคานำเข้าที่เป็นเครื่องจีนที่ราคา 12,890- 13,890 บาท แต่คาดว่าเข้ามาในไทยก็คงมีราคาไม่เกิน 15,000 บาทแน่นอน ดูสเปคเต็มได้ที่นี่ตารางเปรียบเทียบ Redmi Note 11 Pro Plus 5G กับรุ่นอื่นในซีรีส์เดียวกันข้อมูล รุ่นRedmi Note 11 Pro Plus 5GRedmi Note 11 Pro 5GRedmi Note 11 ProRedmi Note 11Sหน้าจอAMOLEDกว้าง 6.67 นิ้วAMOLEDกว้าง 6.67 นิ้วAMOLEDกว้าง 6.67 นิ้วAMOLEDกว้าง 6.43 นิ้วชิปฯDimensity 920 5GSnapdragon 695 5GHelio G96Helio G96กล้องหน้า16MP16MP16MP16MPกล้องหลัง108MP + 8MP + 2MP108MP + 8MP + 2MP108MP + 8MP + 2MP + 2MP108MP + 8MP + 2MP + 2MPRAM/ ROM6GB, 8GB/128GB, 256GB8GB/ 128GB8GB/ 128GB8GB/ 128GBmicroSD1TB1TB1TB1TBแบตเตอรี่4,500 mAhHyperCharge 120W5,000 mAhTurboCharge 67W5,000 mAhTurboCharge 67W5,000 mAhFast Charge 33Wราคายังไม่มีราคาในไทย10,990 บาท8,999 บาท8,299 บาท*ราคาทั้งหมด เป็นราคาตอนเปิดตัวเท่านั้นแล้วทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลของ Redmi Note 11 Pro Plus 5G รุ่นตัวท็อปในซีรีส์ของ Redmi Note 11 ที่ปล่อยออกมาอยู่หลายรุ่น ซึ่งรุ่นนี้ถ้าดูจากตารางการเปรียบเทียบสเปคด้านบน จะเห็นได้ว่ามีความใกล้เคียงกับ Redmi Note 11 Pro 5G มากๆ แต่ว่ารายละเอียดสเปคจะต่างกันตามที่ได้บอกไว้ในข้อมูลข้างต้น และก็แน่นอนว่ารุ่นที่มี 5G นั้นก็จะมีการลดสเปคกล้องและสเปคอื่นๆ ลงไปด้วย ไม่เหมือนกับรุ่น 4G ที่ได้กล้องดีกว่าและสเปคอื่นๆ ที่ต่างกันอีกพอสมควรเลย รุ่นนี้เหมาะกับคนที่ต้องการใช้งาน 5G และต้องการเน้นทั้งเล่นเกมหรือถ่ายรูปเป็นหลักเลย แต่ถ้าใครที่คิดว่าไม่ได้ใช้ 5G อยู่แล้วก็สามารถเลือกเป็นตัว Redmi Note 11 Pro รุ่นปกติที่มีสเปคใช้งานแบบทั่วไปได้ดี และมีราคาที่ถูกกว่ารุ่น 5G ด้วย แล้วถ้ามีเรื่องไหนน่าสนใจอีก เราก็จะนำมาฝากกันเรื่อยๆ เลยนะครับ jQuery(document).ready(function($) {
$.post(‘https://specphone.com/web/wp-admin/admin-ajax.php’, {action: ‘wpt_view_count’, id: ‘334112’});
}); jQuery(document).ready(function( $) {
$.post( ‘https://specphone.com/web/wp-admin/admin-ajax.php’, {action: ‘mts_view_count’, id: ‘334112’});
});
#แนะนำ #Redmi #Note #Pro #สเปคกลอง #108MP #ถายรปสวย #จอ #120Hz #ชารจไว #120W #เลนเกมสเปคแรง
[rule_2_plain] #แนะนำ #Redmi #Note #Pro #สเปคกลอง #108MP #ถายรปสวย #จอ #120Hz #ชารจไว #120W #เลนเกมสเปคแรง
[rule_2_plain] #แนะนำ #Redmi #Note #Pro #สเปคกลอง #108MP #ถายรปสวย #จอ #120Hz #ชารจไว #120W #เลนเกมสเปคแรง
[rule_3_plain]

#แนะนำ #Redmi #Note #Pro #สเปคกลอง #108MP #ถายรปสวย #จอ #120Hz #ชารจไว #120W #เลนเกมสเปคแรง
แนะนำ Redmi Note 11 Pro Plus 5G สเปคกล้อง 108MP ถ่ายรูปสวย หน้าจอ 120Hz ชาร์จเร็ว 120W เล่นเกมได้ด้วยสเปคแรงมือถือตัวแรงที่เปิดตัวออกมาในช่วงสิ้นเดือนมีนาคม 2565 ที่ผ่านมาอีกหนึ่งรุ่น ในซีรีส์ของ Redmi Note 11 Series และเรียกได้ว่าเป็นรุ่นตัวท็อปสุดแล้วก็ว่าได้ นั่นก็คือตัว Redmi Note 11 Pro Plus 5G ที่มีสเปคเกินรุ่นอื่นๆ ไปหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นความแรงของตัวเครื่อง หน้าจอสวยใสไหลลื่น เล่นเกมได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญคือได้กล้องมาถ่ายรูปได้แบบสวยๆ ถึงระดับเรือธงเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีลำโพงที่ให้เสียงโดดเด่นกว่าใครด้วย แต่สำหรับในบ้านเราก็ต้องรอราคาที่จะนำมาวางขายกันอีกรอบ เพราะตอนนี้ยังไม่ได้นำเข้ามาอย่างเป็นทางการ แต่รุ่นนี้ถ้าดูจากสเปคจริงๆ ก็มีความแอบคล้ายกับ Redmi Note 11 Pro 5G อยู่เหมือนกัน จะแตกต่างกันที่ชิปและแบตนิดหน่อย คาดว่าราคาก็คงจะไม่ต่างกันมากด้วย ต้องมารอดูกันอีกทีว่าจะมีราคาเข้ามาที่กี่บาท และจะเข้ามาตอนไหน ใครที่กำลังสนใจรุ่นนี้อยู่ วันนี้ทาง Specphone จะมาแนะนำสเปคของ Redmi Note 11 Pro Plus 5G ที่สามารถถ่ายรูปได้แบบสวยๆ ด้วยกล้องหลักระดับเรือธง 108MP หน้าจอไหลลื่นถึง 120Hz และยังได้สเปคเร็วแรงใช้งาน 5G ได้ด้วยดีไซน์ตัวเครื่องสเปคหน้าจอชิปประมวลผลกล้องหน้า และกล้องหลังความจุแบตเตอรี่ การเชื่อมต่อ และราคาตารางเปรียบเทียบ Redmi Note 11 Pro Plus 5G กับรุ่นอื่นในซีรีส์เดียวกันดีไซน์ตัวเครื่องสวยงามตามแบบฉบับ Note 11 Proเริ่มต้นกันด้วยการดีไซน์ตัวเครื่องของรุ่นนี้กันก่อนเลย ซึ่งรูปแบบตัวเครื่องนี้จะบอกว่าคล้ายๆ กับตัว Redmi Note 11 Pro และ Redmi Note 11 Pro 5G เลยก็ว่าได้ แต่ก็ไม่เหมือนกันทั้งหมดทีเดียว เพราะรุ่นนี้จะมีความหนากว่าที่ 8.34 มม. มีน้ำหนัก 204 กรัม และมีขนาดที่สั้นกว่าเล็กน้อยเท่านั้น แต่ก็ยังมีความคล้ายกันตรงที่เป็นเหลี่ยมๆ กับกรอบแบน และมีฝาหลังหลังเป็นกระจกเหมือนกันด้วย ส่วนด้านหน้าก็มีจอเป็นแบบ Punch-Hole Display มีกล้องตรงกลาง พร้อมกับโมดูลกล้องหลังของรุ่นนี้ก็ไม่เหมือนกับทั้งสองรุ่น เพราะ Redmi Note 11 Pro Plus 5G ตัวนี้จะมีการบอกเลข 108MP ที่กล้องหลังในแนวนอนไปกับตัวเครื่อง ส่วนทั้งสองรุ่นก่อนหน้านี้จะบอกไว้เป็นแนวตั้งแทน แต่ทั้งนี้ก็ยังคงมีกล้องที่เป็น 3 ตัวเหมือนกับรุ่นโปร 5G เช่นกัน ส่วนการปลดล็อคหน้าจอ รุ่นนี้จะสามารถสแกนลายนิ้วมือได้จากด้านข้างตัวเครื่อง และสามารถใช้งาน AI Face เพื่อปลดล็อคหน้าจอได้ด้วย พร้อมกับคุณสมบัติกันฝุ่นและละอองน้ำระดับ IP53 ส่วนสีของตัวเครื่องจะมีให้เลือก 3 สีคือ Graphite Gray, Star Blue และ Forest Greenหน้าจอคมชัดไหลลื่น 120Hzมาที่เรื่องของหน้าจอของ Redmi Note 11 Pro Plus 5G กันบ้างที่ไม่ธรรมดาเหมือนกัน ด้วยหน้าจอกระจก Corning Gorilla Glass 5 ที่เป็นแบบ AMOLED (FHD+) ให้การแสดงผลหน้าจอที่คมชัดสีสันสวยงาม และแสดงผลได้ถึงระดับ HDR 10 พร้อมขอบเขตสีระดับ DCI-P3 ถึงแม้ว่าจะออกไปยังที่ที่มีแสงจ้ามากๆ ก็ไม่ต้องกังวลด้วยความสว่างหน้าจอมากถึง 1200 นิต มีการตรวจสอบแสงได้แม่นยำ 360 องศาเลยทีเดียว รุ่นนี้จะมีความกว้างหน้าจอที่ 6.67 นิ้ว ใหญ่เท่ากับรุ่นโปร 5G ธรรมดาเลย และยังมีความไหลลื่นของหน้าจอด้วยอัตรา Refresh Rate 120Hz พร้อมกับ Touch sampling rate มากถึง 360Hz สัมผัสได้อย่างแม่นยำเล่นเกมได้เป็นอย่างดีแน่นอน นอกจากนี้หน้าจอยังเป็นแบบเจาะรูกล้องหน้าหรือ Punch-Hole Display ตรงกลางหน้าจอ ทำให้ไม่รบการใช้งานมากเกินไป และยังถนอมสายตาได้ดีอีกด้วยชิปประมวลผลตัวแรงมาถึงจุดสำคัญที่ทำให้รุ่นนี้มีความต่างจากรุ่นโปรและรุ่นอื่นๆ นั่นก็คือชิปประมวลผลที่รุ่นนี้เป็น Dimensity 920 5G ให้ความเร็วถึง 2.5GHz ในขณะที่รุ่นโปร 5G จะมีชิปเป็น Snapdragon 695 ที่ความเร็ว 2.2GHz เท่านั้น ส่วนตัว GPU ก็ได้ใช้เป็นตัว Mali G68 เข้ามาช่วยให้รุ่นนี้สามารถเล่นเกม และใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย ที่สำคัญคือรุ่นนี้ก็ยังมีระบบระบายความร้อนแบบ LiquidCool และถือเป็นรุ่นแรกของ Redmi เลยที่มีระบบ Vapor Chamber Cooling ระบายความร้อน ที่น่าสนใจก็คือ Redmi Note 11 Pro Plus 5G รุ่นนี้มีเสียงที่ออกแบบโดย JBL พร้อมลำโพงสเตอริโอคู่ รองรับทั้ง Dolby Atmos, Hi-Res AUDIO และ Hi-Res AUDIO Wireless ให้เสียงคมชัดความละเอียดสูง กระจายรอบทิศทาง ไม่ว่าจะดูหนัง ฟังเพลง หรือว่าจะเล่นเกมก็ดื่มด่ำไปกับเสียงระดับเทพ ส่วนความจำรุ่นนี้จะมีให้เลือกทั้งแบบ RAM 6GB / 8GB และ ROM 128GB / 256GB และทำงานบนระบบ MIUI 12.5, based on Android 11 แต่ต้องรอดูอีกทีว่ารุ่นที่เข้าไทยนั้นจะเป็นความจุเท่าไหร่บ้างนะกล้องหน้า และกล้องหลังระดับเรือธงจุดเด่นของ Redmi Note 11 Pro Plus 5G อีกหนึ่งอย่างก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของกล้อง ที่ถึงแม้ว่ากล้องหน้าจะมีสเปคเท่ากับรุ่นโปร 5G เลยคือความละเอียด 16MP เซลฟี่ได้สวยคมชัดทุกมุมมอง แต่ว่ากล้องหลังที่มี 3 ตัวเหมือนกันนั้น จะมีสเปคที่ไม่เหมือนกันอยู่ด้วย โดยรุ่นนี้จะมีกล้องหลักความละเอียด 108MP (ƒ/1.8) ในขณะที่รุ่นโปร 5G จะมี 108MP (ƒ/1.9)  เลนส์อัลตร้าไวด์ 8MP (ƒ/2.2) ที่สามารถเปิดกว้างได้ถึง 120 องศา (รุ่นโปร 5G ได้ 118 องศา) และสุดท้ายคือเลนส์มาโคร 2MP (ƒ/2.4) เหมือนกัน พร้อมกับถ่ายวิดีโอได้ถึงระดับ 4K (30fps) ถ่ายได้ทุกช่วงเวลาไม่ว่าจะมุมใกล้หรือมุมไกล ก็เก็บรายละเอียดได้เป็นอย่างดี รวมไปถึง AI Skycaping และฟีเจอร์อื่นๆ อีกมากมายรองรับการสร้างสรรค์การถ่ายรูปได้สนุกมากยิ่งขึ้นด้วย ใครที่มองหามือถือ 5G สำหรับถ่ายรูปได้สวยๆ หรือจะถ่ายวิดีโอทำคอนเทนต์ต่างๆ รุ่นนี้ก็ยังตอบโจทย์การใช้งานในหลายรูปแบบอยู่ดี ถ้าเทียบกับรุ่นโปร 5G รุ่นนี้ก็ยังมีกล้องที่เหนือกว่านิดหน่อยด้วยความจุแบตเตอรี่ การเชื่อมต่อ และราคาที่ยังไม่เป็นทางการปิดท้ายกันด้วยเรื่องของความจุแบตเตอรี่ที่รุ่นนี้ได้ความจุมา 4500 mAh ซึ่งจะน้อยกว่ารุ่นอื่นๆ ที่มี 5000 mAh แต่ว่า Redmi Note 11 Pro Plus 5G ตัวนี้ก็มีการรองรับ HyperCharge 120W ที่มีมาให้ในกล่องเลยด้วย ถ้าถามว่าเร็วแค่ไหนก็เร็วจนสามารถชาร์จเต็ม 100% ได้ภายในเวลา 15 นาทีด้วยโหมด Boost กันเลยทีเดียว ไม่ต้องรอนานให้เสียเวลาก็กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง และด้วยสเปคชิปที่ประหยัดพลังงานอยู่แล้ว จึงทำให้รุ่นนี้สามารถดูวิดีโอได้ยาวๆ 18 ชม. และฟังเพลงได้ต่อเนื่องถึง 140 ชั่วโมงเลยทีเดียว ส่วนการเชื่อมต่อรุ่นนี้จะมีพอร์ต USB Type-C มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และเชื่อมต่อได้ทั้ง 5G, NFC, Wi-Fi 6 และ Bluetooth 5.2 ส่วนทางด้านของราคารุ่นนี้ยังไม่มีราคาอย่างเป็นทางการของไทยออกมา จะมีเพียงราคานำเข้าที่เป็นเครื่องจีนที่ราคา 12,890- 13,890 บาท แต่คาดว่าเข้ามาในไทยก็คงมีราคาไม่เกิน 15,000 บาทแน่นอน ดูสเปคเต็มได้ที่นี่ตารางเปรียบเทียบ Redmi Note 11 Pro Plus 5G กับรุ่นอื่นในซีรีส์เดียวกันข้อมูล รุ่นRedmi Note 11 Pro Plus 5GRedmi Note 11 Pro 5GRedmi Note 11 ProRedmi Note 11Sหน้าจอAMOLEDกว้าง 6.67 นิ้วAMOLEDกว้าง 6.67 นิ้วAMOLEDกว้าง 6.67 นิ้วAMOLEDกว้าง 6.43 นิ้วชิปฯDimensity 920 5GSnapdragon 695 5GHelio G96Helio G96กล้องหน้า16MP16MP16MP16MPกล้องหลัง108MP + 8MP + 2MP108MP + 8MP + 2MP108MP + 8MP + 2MP + 2MP108MP + 8MP + 2MP + 2MPRAM/ ROM6GB, 8GB/128GB, 256GB8GB/ 128GB8GB/ 128GB8GB/ 128GBmicroSD1TB1TB1TB1TBแบตเตอรี่4,500 mAhHyperCharge 120W5,000 mAhTurboCharge 67W5,000 mAhTurboCharge 67W5,000 mAhFast Charge 33Wราคายังไม่มีราคาในไทย10,990 บาท8,999 บาท8,299 บาท*ราคาทั้งหมด เป็นราคาตอนเปิดตัวเท่านั้นแล้วทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลของ Redmi Note 11 Pro Plus 5G รุ่นตัวท็อปในซีรีส์ของ Redmi Note 11 ที่ปล่อยออกมาอยู่หลายรุ่น ซึ่งรุ่นนี้ถ้าดูจากตารางการเปรียบเทียบสเปคด้านบน จะเห็นได้ว่ามีความใกล้เคียงกับ Redmi Note 11 Pro 5G มากๆ แต่ว่ารายละเอียดสเปคจะต่างกันตามที่ได้บอกไว้ในข้อมูลข้างต้น และก็แน่นอนว่ารุ่นที่มี 5G นั้นก็จะมีการลดสเปคกล้องและสเปคอื่นๆ ลงไปด้วย ไม่เหมือนกับรุ่น 4G ที่ได้กล้องดีกว่าและสเปคอื่นๆ ที่ต่างกันอีกพอสมควรเลย รุ่นนี้เหมาะกับคนที่ต้องการใช้งาน 5G และต้องการเน้นทั้งเล่นเกมหรือถ่ายรูปเป็นหลักเลย แต่ถ้าใครที่คิดว่าไม่ได้ใช้ 5G อยู่แล้วก็สามารถเลือกเป็นตัว Redmi Note 11 Pro รุ่นปกติที่มีสเปคใช้งานแบบทั่วไปได้ดี และมีราคาที่ถูกกว่ารุ่น 5G ด้วย แล้วถ้ามีเรื่องไหนน่าสนใจอีก เราก็จะนำมาฝากกันเรื่อยๆ เลยนะครับ jQuery(document).ready(function($) {
$.post(‘https://specphone.com/web/wp-admin/admin-ajax.php’, {action: ‘wpt_view_count’, id: ‘334112’});
}); jQuery(document).ready(function( $) {
$.post( ‘https://specphone.com/web/wp-admin/admin-ajax.php’, {action: ‘mts_view_count’, id: ‘334112’});
});

OtoFuns

Back to top button